ไม้ปาร์เก้และไม้แปรรูปต่าง ๆ ถือว่าเป็นวัสดุธรรมชาติที่สามารถเสื่อมสภาพได้ อาจจะมีเกิดการผุพังโดนความชื้นแล้วทำให้เกิดความเสียให้ต่อตัวไม้ได้ ดังนั้นเราควรศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของไม้ต่าง ๆ ไว้เป็นข้อมูลติดตัวเผื่อวันใดวันหนึ่งจะต้องหยิบมาใช้งานจะได้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่ผมได้เขียนขึ้นมานั้นจะเป็นงานที่เกี่ยวกับไม้ปาร์เก้และส่วนใหญ่จะต้องใช้หลังจากปูพื้นเสร็จเช่น สีย้อมไม้, ยูริเทรน และวาร์นิชเป็นต้น
ไม้ปาร์เก้ในงานสีย้อมไม้ (WOOD STAIN)
ในงานของไม้ปาร์เก้และงานเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ถือว่าสีย้อมไม้เป็นสิ่งจำเป็นมากเลยทีเดียว เพราะสีย้อมไม้เป็นสิ่งที่ช่วยให้เพิ่มสีสัน และช่วยขับลายไม้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสีย้อมไม้ปัจจุบันจะสามารถป้องกันปลวกแมลงต่าง ๆ ที่จะมากัดกินเนื้อไม้ได้อีกด้วย ปกติแล้วสีย้อมไม้ก็จะมีแบบใช้พ่นและใช้ทา สีย้อมไม้ที่เราคุ้นเคยก็จะมีอยู่ 2 แบบคือ
- สูตรน้ำ เหมาะสำหรับทาภายในมากกว่าภายนอก
- สูตรน้ำมัน เหมาะสำหรับทาได้ทั้งภายในและภายนอก
วิธีใช้สีย้อมไม้
- ก่อนใช้สีย้อมไม้ให้เราใช้กระดาษทรายขัดตกแต่งไม้ก่อน โดยถ้าเป็นไม้หยาบใช้เบอร์ 100-150 และไม้ละเอียดใช้เบอร์ 180-320
- ในกรณีเราจะย้อมสีไม้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อนนั้น จะต้องทนน้ำยากันปลวกก่อน 1 รอบ
- ลงมือทาสีย้อมไม้ 3 รอบแต่ไม่เกิน 5 รอบ โดยทุกครั้งแต่ละรอบที่ทาให้เว้นทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และรอบสุดท้ายให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 400 ขัดแล้วทาสีย้อมไม้ชนิดใสเพื่อเคลือบผิวของเนื้อไม้
Tip
- สีย้อมไม้เป็นสีที่ส่วนมากจะทนกรด ไม่ทนด่าง จึงแนะนำให้ล้างด้วยน้ำเปล่า อย่าไปใช้พวกสบู่และผงซักฟอก
- ควรทาสีย้อมไม้ตามแนวเสี้ยนของไม้ในทิศทางเดียวกันเสมอ และไม่กดแรงจนเกินไป
ไม้ปาร์เก้ในงานวาร์นิช (VARNISH)
วาร์นิชหรือทั่ว ๆ ไปจะเรียกน้ำมันชักเงานั้น มีไว้สำหรับทาไม้ให้เกิดความเงาและความใสบนตัวไม้มีทั้งแบบเงาและแบบด้าน ซึ่งวาร์นิชจะเหมาะกับงานที่เป็นไม้ปาร์เก้และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่มีข้อเสียคือจะแห้งช้า โดยหลังจากทาแล้วอาจจะต้องทิ้งไว้ 10-24 ชั่วโมงเลยทีเดียว และในขณะปล่อยรอให้แห้งอาจทำให้ติดฝุ่นได้ง่าย แต่ปัญหาและข้อเสียต่าง ๆ ของวาร์นิชนั้นปัจจุบันได้ถูกพัฒนาและแก้ไขแล้ว ดังนั้นผู้ใช้ปัจจุบันไม่ต้องกังวลถึงข้อเสียต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกต่อไป
ไม้ปาร์เก้ในงานพอลิยูรีเทน (POLY-URETHANE)
ไม้ปาร์เก้ที่เราใช้ปูพื้นจะต้องรู้จักพอลิยูริเทนเป็นอย่างดีเพราะเป็นที่นิยมใช้กันมาก พอลิยูรีเทนนั้นเป็นเป็นน้ำมันเคลือบแข็งบนตัวไม้ทำให้ทนทานต่อการขูดขีด และทนต่อการกระแทกได้เป็นอย่างดี มีทั้งแบบเงา กึ่งเงาและแบบด้าน โดยเมื่อแห้งแล้วจะมีลักษณะเป็นเนื้อฟิล์มแข็งและหนาอีกทั้งยังทนความร้อนได้ดีอีกด้วย พอลิยูรีเทนมีการผสมอยู่ 2 รูปแบบคือ
- ระบบ 1 ส่วนสามารถใช้งานได้เลยไม่ต้องนำไปผสม
- ระบบ 2 ส่วนคือผสมน้ำยาสองชนิดให้เข้ากันก่อนนำไปใช้งานโดยชนิดนี้จะมีคุณภาพที่ดีกว่าใช้แบบ 1 ส่วน
ไม้ปาร์เก้ในงานสีรองพื้นไม้ (WOOD PRIMER)
สีรองพื้นไม้นั้นจะใช้สำหรับป้องกันยางไม้ และช่วยในการยึดเกาะบนพื้นผิ้วไม้ทำให้ไม้ดูเรียบขึ้น ทาได้บนไม้ปาร์เก้ ไม้จริงและไม้อัดอีกด้วย ในการทาสีรองพื้นไม้ไม่ควรใช้พร้อมกับสีย้อมและทีคออยล์
ไม้แปรรูปในงานทีคออยล์ (TEAK OIL)
ทีคออยล์เป็นน้ำมันรักษาไม้ในรูปแบบชนิดใส โดยช่วยป้องกันไม้ไม่ให้เกิดการเปลี่ยนสี เหมาะสำหรับงานไม้เก่าที่ต้องการปรับให้ไม้ดูใหม่ขึ้นกว่าเดิม เพราะตัวทีคออยล์จะซึมเข้าไปในเนื้อไม้เพื่อทดแทนน้ำมันธรรมชาติที่สูญเสียไป ในการใช้งานควรทาซ้ำเมื่อไม้เริ่มแห้งอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ไม้แปรรูปในงานแล็กเกอร์ (LACQUER)
เฟอร์นิเจอร์ในการทำนั้นทุกคนจะรู้จักแล็กเกอร์เป็นอย่างดีเพราะช่วยทำให้ลายไม้โดดเด่นขึ้นมา เพื่อเพิ่มความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังป้องกันผิวไม้จากสภาพอากาศ และความชื่นได้ดี แล็กเกอร์นั้นจะแห้งเร็วมากสามารถใช้ได้ในงานไม้ภายในไม่เหมะสำหรับทาภายนอกเพราะจะให้ไม้เหลืองง่าย มีให้เลือกซื้อในแบบชนิดเงาและชนิดด้าน และเนื่องด้วยแล็กเกอร์หลังจากใช้จะแห้งเร็วมากดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้พ่นจะสวยงามมากกว่าใช้แปรงทั่วไปทา
ไม้แปรรูปในงานน้ำยากันปลวก (WOOD PRESERVATIVE)
น้ำยากันปลวกเป็นน้ำยาที่ช่วยในการรักษาเนื้อไม้ ป้องกันแมลงมากัดกินไม้ นิยมใช้กับไม้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน เพราะปลวกนั้นจะชอบกินไม้เนื้ออ่อน แต่ถ้าคนไหนที่เลือกใช้ไม้เนื้อแข็งในงานต่าง ๆ น้ำยากันปลวกจะไม่จำเป็นต้องใช้เลย เช่น ไม้ปาร์เก้มะค่า และไม้สัก เป็นต้น
ไม้แปรรูปในงานเซลแล็ก (SHELLAC)
เซลแล็กเป็นน้ำยาทาไม้ มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความเงางามให้เนื้อไม้ ป้องกันยางไม้ และใช้ย้อมไม้ให้มีสีสันมากขึ้น เซลแล็กจะเหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอและของใช้ต่าง ๆ ที่ทำจากไม้
สรุปผลิตภัณฑ์งานไม้ปาร์เก้และไม้แปรรูป
จากเนื้อหาในบทความด้านบนทั้งหมดจะเห็นว่ามีผลิตภัณฑ์ในงานไม้ปาร์เก้และไม้แปรรูปต่าง ๆ เยอะมาก ในการใช้งานควรจะศึกษาหาข้อมูลการใช้ให้ถูกวิธี อีกทั้งผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มีผู้ผลิตมากมายเหลือเกิน ถ้าเป็นไปได้ลองคุยและสอบถามกับทางเซลล์ของผู้ผลิตหลาย ๆ ที่ดูจะได้เป็นแนวทางในการนำไปใช้งานให้ถูกวิธี