ไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นนั้นมีหลายชนิดไม้ว่าจะเป็น ไม้แดง ไม้มะค่า และไม้สักเป็นต้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบของสีลวดลายต่าง ๆ ของไม้ที่ผู้ใช้ต้องการ การปูพื้นไม้นั้นจะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่างในการปูเพื่อให้งานที่ออกมานั้นสวยงาม คงทน อยู่กับเราไปนาน ๆ ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ในการปูพื้นไม้นั้นส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ฝีมือประสบการณ์ของช่าง พื้นปูน และวัตถุดิบก็คือไม้นั้นเอง และในการปูพื้นไม้นั้นบางคนอาจจะไม่รู้รายละเอียดว่ามันมีทั้งหมดกี่วิธี ซึ่งบทความนี้ผมได้ลองเขียนความรู้เบื้องต้นให้ทุกท่านได้ทราบไว้ประกอบการเลือกตัดสินใจก่อนลงทุนซื้อไม้จริงมาปูครับ
ความแตกต่างระหว่างไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้น
พื้นไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นนั้นก็คือการนำไม้เป็นชิ้น ๆ ที่มีรางลิ้นมาปูประกอบกันลงบนพื้นนั้นเอง โดยเราจะเรียกแตกต่างกันโดยดูจากความกว้างและความยาวนั้นเองคือ
- ไม้ปาร์เก้คือไม้ที่เป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่มีความกว้างไม่เกิน 4 นิ้วและยาวไม่เกิน 60 เซนติเมตรและจะมีรางลิ้นรอบตัวเพื่อไว้ประกอบไม้เข้าด้วยกัน ผมขอยกตัวอย่างขนาดไม้ปาร์เก้ดังนี้
1” x 2” x 30cm
1” x 4” x 35cm
1” x 4” x 45cm
1” x 4” x 60cm
หมายเหตุ: หนา (นิ้ว) x กว้าง (นิ้ว) x ยาว (เซนติเมตร) - ไม้รางลิ้นคือไม้ที่มีความกว้างตั้งแต่ 6 นิ้วและมีความยาว 1 เมตรขึ้นไปซึ่งลักษณะก็จะคล้ายเหมือนกับไม้ปาร์เก้นั้นเองแต่มีความใหญ่ของไม้มากกว่า และในส่วนของรางลิ้นนั้นจะแตกต่างจากไม้ปาร์เก้คือ บางครั้งการผลิตจะผลิตรางลิ้นมาสองด้านซ้ายขวาไม่มีบนและล่าง หรืออาจจะมีรางลิ้นรอบตัวโดยก่อนซื้อผู้ซื้อจะต้องถามช่างที่ปูว่าต้องการแบบใด อีกทั้งตอนซื้อนั้นจะต้องถามทางผู้ขายด้วยเพื่อให้ได้ไม้ตามที่ต้องการ มาดูตัวอย่างขนาดของไม้รางลิ้นกันครับ
1” x 4” x 100cm
1” x 6” x 100cm
1” x 6” x 200cm
1” x 8” x 200cm
หมายเหตุ: หนา (นิ้ว) x กว้าง (นิ้ว) x ยาว (เซนติเมตร)
รูปแบบของการปูพื้นไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้น
ปกติแล้วถ้าเราพูดถึงรูปแบบการปูพื้นไม้นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ ซึ่งได้แก่
- การปูลอย (Floating System) คือการปูไม้แบบโดยไม่มีการยึดติดกับพื้นโดยส่วนมากนิยมปูกับไม้เอ็นจิเนียร์เพราะสามารถแก้ไขได้ง่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์พื้นไม้เสียหายสามารถเปลี่ยนไม้ได้เลย แน่นอนไม้เอ็นจิเนียเมื่อปูแล้วเวลาเดินจะรู้สึกได้ว่ามันไม่แน่น จึงไม่ค่อยแนะนำไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นมาปูในรูปแบบนี้
- การปูโดยใช้กาว (Glue Down System) คือการใช้กาวทาบนไม้เพื่อยึดติดกับพื้นส่วนมากแล้วไม้ปาร์เก้นิยมใช้วิธีนี้ในการปูพื้น
- การปูโดยใช้ตะปู (Nail Down System) คือการใช้ตะปูเป็นตัวยึดเข้ากับพื้นหรืออาจจะยึดติดกับไม้ที่เราเรียกว่าตงไม้ การปูแบบนี้จะเหมาะกับไม้รางลิ้น
ในการปูพื้นไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นผมแนะนำให้ใช้รูปแบบที่ 2 และ 3 มากกว่านะครับ ซึ่งเป็นวิธีที่คงทนที่สุดแล้ว ส่วนในแบบที่ 1 ผมไม่ค่อยอยากแนะนำมากเท่าที่ควรเพราะมันไม่เหมาะกับไม้จริงเนื่องจากไม้จะไม่มีที่ยึดกับอาจทำให้เกิดการเสียหายต่อพื้นไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นได้ครับ
องค์ประกอบในการปูพื้นไม้
ชนิดของไม้
ในการขายไม้ปาร์เก้นั้นลูกค้าที่โทรมาผมก็จะไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ไม้แดงซักเท่าไรเพราะไม้แดงไวต่อความชื้นมีความยืดหดตัวค่อนข้างสูงมากกว่าไม้ชนิดอื่นถ้า ถ้าเราได้ช่างที่ปูไม่ค่อยมีประสบการณ์หลังจากที่ปูเสร็จก็อาจจะเกิดปัญหาตามมาได้เช่น ไม้ผ่องตัว ดีดตัว หรือเรียกว่าพื้นไม้ระเบิดเป็นต้น แต่ผมไม่ได้บอกนะครับว่าไม้แดงไม่ดี เพราะก็เคยเห็นหลาย ๆ บ้านที่ปูแล้วอยู่มา 20-30 ปียังสวยอยู่เลยก็มีครับ
ขนาดของไม้ที่ปู
ในการเลือกไม้ปูพื้นนั้นไม่ว่าจะเป็นไม้ปาร์เก้หรือไม้รางลิ้น ควรคำนึงถึงขนาดของพื้นที่ในการปูเป็นหลัก เพราะถ้าห้องเล็ก ๆ แล้วเลือกใช้ไม้ที่มีขนาดใหญ่ หลังจากปูเสร็จวางเฟอร์นิเจอร์ไปแล้ว อาจจะทำให้ไม่ค่อยสวยเท่าที่ควรเพราะมองไม่คอยเห็นลายไม้
การเตรียมพื้นสำหรับปูไม้
นี่คือปัจจัยสำคัญเลยก็ว่าได้ ว่าไม้ของเราหลังจากปูเสร็จแล้วจะอยู่กับเราได้นานไหมเพราะถ้าเตรียมพื้นที่สำหรับปูไม้ได้ไม่ดีปัญหาต่าง ๆ ก็จะตามมามากมาย ในการเตรียมพื้นสำหรับปูไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นนั้น พื้นจะต้องได้ระดับ เรียบเสมอกันทั้งหมด และต้องคำนึงถึงด้วยว่าพื้นที่ที่ปูไม้นั้นใกล้กับแหล่งน้ำมากแค่ไหน ซึ่งต่อให้มีไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นสวยขนาดไหนก็ตาม ถ้าเตรียมพื้นไม่ดีคุณอาจจะเห็นมันอยู่กับคุณได้ไม่กี่เดือนก็พังรื้อใหม่แล้วครับ อีกอย่างหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินการเตรียมตงไม้รองรับไม้รางลิ้น เพราะว่าตงไม้นี่เองที่ช่างนิยมนำมาแก้ไขปัญหากรณีที่เจอพื้นที่ไม่มีความสม่ำเสมอและไม่ได้ระดับ อีกทั้งไว้แก้ไขปัญหาเมื่อเจอพื้นที่มีความชื้นมาก ๆ เพราะเมื่อพื้นปูนเจอความชื้นมาก ๆ นั้นจะทำให้ไม่สามารถใช้ทากาวที่ไม้และติดลงบนพื้นได้
การปูโดยใช้กาว (Glue Down System)
ความชื้นของพื้นปูน
ในการปูพื้นโดยใช้กาวนั้นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งก็คือความชื้น เพราะถ้าพื้นปูนมีความชื้นแล้วจะทำให้ปูโดยใช้กาวไม่ได้มันจะไม่ยึดกับพื้นปูน ผมเคยมีโอกาสได้ไปอ่านกระทู้ในเวป www.pantip.com มีคนแนะนำเคล็ดลับแบบบ้าน ๆ ว่าในการวัดความชื้นของพื้นปูนนั้นให้นำพลาสติกที่กันน้ำได้ตัดมาวางกระจายไว้ทั่วห้องให้หมด โดยใช้กาวติดที่ขอบพลาสติกสี่ด้านเพื่อดักความชื้นไม่ให้ออกมา ทิ้งไว้ 1 คืนถ้าพลาสติกที่ติดไว้นั้นมีละอองน้ำติดมา ห้ามปูพื้นปาร์เก้หรือรางลิ้นเด็ดขาด แต่ถ้าไม่สามารถแก้ไขความชื้นได้นั้นอาจจะป้องกันโดยใช้ Moisture หรือ Vapor Barrier เพื่อชะลอความชื้นที่จะขึ้นมาจากพื้นปูน
ระดับพื้นปูน
ในการปรับระดับพื้นปูนนั้นถ้าพื้นปูนไม่ได้ระดับอาจจะพวก Lanko และ Henkel ซึ่งเป็นปูนช่วยปรับระดับพื้นให้เท่ากัน
กาวปูพื้น
ในการเลือกใช้กาวสำหรับปูพื้นนั้นถ้าเป็นพวกไม้ปาร์เก้สามารถใช้กาวลาเท็กซ์ ธรรมดาก็เพียงพอส่วนถ้าเป็นไม้พื้นรางลิ้นนั้นสามารถใช้กาวลาเท็กซ์หรือกาว โพลียูรีเทนได้ เพราะกาวโพลียูรีเทนสามารถทนความชื้นได้ดีกว่ากาวชนิดอื่น
การขัดพื้นไม้และเคลือบพื้นไม้
ก่อนที่จะทำการขัดพื้นหรือเคลือบไม้นั้น ให้ทิ้งไม้ที่ปูเสร็จไว้หลาย ๆ วันเพื่อดู ว่าไม้ที่ปูไปนั้นมีการยืดหดตัวมากน้อยแค่ไหนจะได้แก้ไขทัน ส่วนในการขัดไม้ปาเก้และไม้รางลิ้นก็อาจจะใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดหน่อยในการขัดพื้น ไม้จะได้ไม่เสียหาย และหลังจากนั้นก็เคลือบพื้นไม้ก็ใช้พวกยูนีเทนที่มีสีด้าน หรือมันก็แล้วแต่ความชอบของเจ้าของบ้าน หรืออาจจะใช้พวกเคมเกรซในการ เคลือบก็ได้
การปูโดยใช้ตะปู (Nail Down System)
ไม้รางลิ้นในการปูพื้นโดยใช้ตะปูยึดนั้นจะต้องมีการรองพื้นโดยใช้
- ตงไม้ คือไม้เนื้อแข็งไสเรียบ วางเป็นโครงยึดด้วยตะปูคอนกรีต กับพื้นปูน และเพื่อป้องกันเสียงดังเวลาเดินอาจะเทปูนให้เสมอกับตงไม้
- รองพื้นด้วยแผ่นซีเมนต์บอร์ด ที่มีขนาดประมาณ 10 มิลลิเมตร และอาจจะป้องกันความชื้นด้วยการวางแผ่นพลาสติกลงบนพื้นปูนก่อนรองพื้นด้วยแผ่นซีเมนต์บอร์ด
ค่าใช้จ่ายปูพื้นไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้น
ส่วนมากแล้วราคาในการปูพื้นไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นนั้นที่ผมเคยเห็นก็จะคิดเป็นตารางเมตรโดยมีรายละเอียดดังนี้
- ค่าปูจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าขัดพื้นจะประมาณ 150 – 400 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าเคลือบสีไม้จะประมาณ 200– 500 บาทต่อตารางเมตร
ราคาด้านบนอาจจะต้องตรวจสอบกับทางช่างอีกทีนะครับ
สรุปการปูพื้นไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้น
ไม้ปาเก้และไม้รางลิ้นในการปูพื้นไม้นั้น เจ้าของบ้านทุกคนก็ต้องอยากได้งานที่ออกมาดีที่สุด ทนทานที่สุดอยู่แล้ว หลาย ๆ คนก็จะเจอปัญหาต่าง ๆ มากมายเพราะไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ก่อนลงมือให้ช่างปูพื้น เห็นราคาค่าแรงในการปูถูกก็เลยให้ช่างคนนั้นลงมือทำ ไม่ได้คำนึงปัจจัยต่าง ๆ เลย ถ้าได้ช่างที่เขามีประสบการณ์ หรือมีฝีมือก็โชคดีไป ดังนั้นบทความที่ผมได้เขียนขึ้นมานั้นถึงแม้อาจจะไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องซะทุกอย่าง แต่ก็หวังว่าพอจะช่วยเจ้าของบ้านหลาย ๆ คนในการเลือกวิธีการปูพื้นไม้ปาร์เก้และไม้รางลิ้นได้เพื่อให้งานออกมาสวยไม่มีที่ติอย่างที่ต้องการ